Animal Testing คืออะไร? รู้จักการทดลองความปลอดภัยที่แลกมากับความเจ็บปวด

เนื้อหาบทความ

Animal Testing คืออะไร? รู้จักการทดลองความปลอดภัยที่แลกมากับความเจ็บปวด

เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมเครื่องสำอางกว่าจะออกจำหน่ายได้ นักวิทยาศาสตร์ได้ทำการทดลองอย่างไร เพื่อไม่ให้ผิวหนังบนใบหน้าของมนุษย์หรือผู้ที่เลือกใช้เครื่องสำอางของแบรนด์ต่างๆปลอดภัย ไม่ให้เกิดอาการแพ้ได้ จึงเป็นที่มาของการทดลองที่มีชื่อว่า Animal Testing ที่ทำให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเลือกทดลองกับสัตว์ เพื่อตรวจหาสิ่งที่เรียกว่า “สารอันตราย”

ทำให้ในปัจจุบันหลายคนหันมาให้ความสนใจเรื่องรณรงค์การทดสอบในสัตว์เลี้ยงเพราะในแต่ละปีต้องใช้สิ่งมีชีวิตอย่างหนู กระต่าย และสัตว์อื่นๆนับล้านตัวต่อปี เพื่อตรวจหาสิ่งอันตรายในเครื่องสำอางก่อนที่จะออกจำหน่ายจริง กว่าจะเจอสูตรหรือสารที่แน่ชัด ทำให้ต้องใช้สัตว์หลายตัว ดังนั้นในปัจจุบันหลายแบรนด์จึงออกมาต่อต้านและเลิกใช้วิธีการทดลองแบบนี้ไปเลย

ทำให้เห็นว่ากว่าจะได้เครื่องสำอางดีๆสักหนึ่งชิ้น เราล้วนแต่ต้องแลกชีวิตของสัตว์มานับไม่ถ้วน ดังนั้นวันนี้แอดจะพาไปประเด็นในเรื่องของการทดลองที่แลกมาด้วยจากความเจ็บของสัตว์กับการทดลอง การทดลองที่ปลอดภัยของเครื่องสำอางนั้นมีวิธีไหนบ้าง เรามีข้อสังเกตยังไงที่จะเลี่ยงแบรนด์ที่ใช้การทดลองแบบนี้


เครื่องสำอาง มีการทดสอบความปลอดภัยยังไง?

Animal Testing

การทดสอบเครื่องสำอางก่อนที่จะมาถึงมือเรานั้น แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการทดลองเพื่อที่จะให้แน่ใจเสียว่าผู้ที่ได้ซื้อผลิตภัณฑ์นั้นปลอดภัยแก่ผู้บริโภค ซึ่งการทดลองในการทดสอบเครื่องสำอางนอกจากสารที่อยู่บนใบหน้าจะได้รับรองว่าปลอดภัยแล้วจากการใช้งานโดยตรง แต่มีอีกกรณีก็เพื่อป้องกันเวลาที่ผู้ใช้เกิดอาการเผลอตัวนั้นเอง

ทำให้เรารู้ว่าก่อนจะมาวางจำหน่าย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ตระหนักและคำนึงถึงความปอดภัยอย่างถี่ถ้วน โดยเฉพาะกับบริเวณใบหน้าของเราที่บางคนอาจจะเกิดอาการแพ้ได้ง่าย หรือบริเวณดวงตาถ้าเกิดเผลอขยี้ลงไป เพราะดวงตาเป็นส่วนที่บอบบางมากที่สุด นอกจากนี้การทดสอบทางการแพทย์ในปัจจุบันมีหลายวิธีดังนี้

  1. การทดสอบการระคายเคืองต่อผิว (Skin Irritation Test) 
  2. การทดสอบความเป็นพิษเมื่อเจอแสง (Photo Toxicity Test)
  3. การทดสอบการระคายเคืองต่อดวงตา (Ocular Irritation Test) 
  4. การทดสอบความสามารถในการซึมซาบสู่ผิวหนัง (Transdermal Permeability Test)

แต่อย่างไรก็ตามทำให้รู้ว่าในปัจจุบันวิธีการทดสอบกับสัตว์จากบางแบรนด์ก็ไม่ได้หายไปเลย ถึงแม้ว่าจะมีการรณรงค์เกิดขึ้นมากมาย แต่หลายแบรนด์ก็หันมาใช้การทดสอบเครื่องสำอางด้วยวิธีอื่นเช่นกัน อย่างนั้นเรามาทำความเข้าใจและรู้จักกันว่าการทดสอบแบบนี้ และวิธีการทดสอบรูปแบบอื่นจะมีอะไรกันบ้าง เพื่อที่จะทำให้หลายคนตัดสินใจเลือกแบรนด์เครื่องสำอางกันได้


การทดสอบในสัตว์เลี้ยงคืออะไร

Animal Testing

อาจจะเป็นสิ่งที่น่าเศร้ายิ่งนักเมื่อรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว การทดสอบแบบนี้คือ การที่ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทำการทดสอบกับสัตว์นั้นเอง อาทิ กระต่าย หนูขาว แมว สุนัข ก็เพื่อให้การทดสอบของผลิตภัณฑ์ออกมาไม่ให้เกิดการระคายเคืองกับผิวของมนุษย์ อีกทั้งยังใช้เพื่อเป็นการพัฒนาสูตรใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการ

หลายคนอาจจะสงสัยว่าจะเกิดการทดสอบจากสัตว์อย่างไร ผู้ที่ทำการทดสอบจะทดสอบจากการหยอดสารเข้าไปในดวงตาของสัตว์ ทาไปบนผิวหนังของสัตว์ หรือแม้กระทั่งฉีดหรือให้สัตว์ทานอาหารที่มีสารเพื่อดูว่าสารนั้นมีอันตรายมากน้อยเพียงใด แต่ละวิธีบอกเลยว่าโหดร้ายกับเจ้าสัตว์พวกนี้เป็นอย่างมาก กว่าจะได้ผลิตภัณฑ์สักอย่างออกมา ใช้สัตว์นับไม่ถ้วน 

จึงทำให้หลายๆประเทศได้ออกมารณรงค์การทดสอบรูปแบบนี้กันอย่างจริงจัง จากที่สร้างแคมเปญรณรงค์ต่อต้านมามากกว่า 3 ทศวรรษ อาทิ ประเทศเกาหลีที่มีการอนุมัติร่างกฎหมาย ว่าห้ามให้บริษัทที่ทำเกี่ยวกับเครื่องสำอางมีการทดสอบกับสัตว์ และยังมีประเทศบราซิล รัสเซีย สหรัฐอเมริกา อินเดีย ก็เริ่มเลี่ยงที่จะใช้การทดสอบแบบนี้ เพราะที่จริงแล้วสามารถที่จะทดสอบด้วยวิธีอื่นๆได้เช่นกัน


ทางเลือกของการทดลองด้วยวิธีใหม่ๆ ที่ไม่ใช้การทดลองกับสัตว์

Animal Testing

การเลี่ยงทดสอบในสัตว์จริงๆแล้วสามารถที่จะทำได้ เพราะในปัจจุบันยังมีการทดสอบเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางออกมาปลอดภัยกับตัวมนุษย์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเลือกตัวผิวหนังเทียมหรือเนื้อเยื่อ เพื่อมาทำการทดสอบ ซึ่งการทดสอบก็มีวิธีแต่ละประเภทเครื่องสำอางแตกต่างกันไป

ซึ่งการทดลองจะเป็นการเพาะเนื้อเยื่อขึ้นมา หรือเป็นการสร้างอวัยวะทดแทน เป็นการเลี้ยงเซลล์ให้เติบโตบนไมโครชิปเพื่อที่จะทำให้เหมือนกับการทำงานของอวัยวะนั้นเอง และอีกหนึ่งวิธีคือได้รับเนื้อเยื่ออาสาสมัครจากคนที่ศึกษาด้านชีววิทยาอยู่แล้ว ซึ่งวิธีนี้ได้ถูกการยอมรับจากการเปลี่ยนการทดลองจากสัตว์มาเป็นเนื้อเยื่อแทน


จุดสังเกตแบรนด์ไหนไม่ทดลองในสัตว์

Animal Testing

จากที่กล่าวไปข้างต้นให้เห็นว่ามีหลายประเทศเริ่มรณรงค์การทดสอบรูปแบบนี้กับแบบจริงจัง ในประเทศไทยก็เริ่มมีการรณรงค์กันแล้วเหมือนกัน ทำให้หลายคนเลือกใช้แบรนด์ที่หันมาทดสอบผลิตภัณฑ์จากเนื้อเยื่อแทน แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแบรนด์ไหนที่ไม่มีการทดสอบกับสัตว์ ซึ่งจุดสังเกตได้ง่ายๆบนฉลากที่มีรูปกระต่ายหรือมีข้อความเหล่านี้

  1. Cruelty Free
  2. Cruelty Free & Vegan
  3. Not Tested on Animals
  4. No Animal Testing
  5. We Never Tested on Animals
  6. Lapping Bunny

อย่างไรก็ตามได้เห็นกันแล้วว่ากว่าจะได้เครื่องสำอางที่ออกมาให้คุณสาวๆใช้กันแต่ละชิ้น มีสัตว์ที่ผ่านการทดสอบจาก Testing มานับไม่ถ้วน ดังนั้นการเลี่ยงใช้แบรนด์ที่มีการทดสอบสัตว์ไม่ใช่ว่าแบรนด์นั้นไม่มีคุณภาพ แต่เป็นแบรนด์ที่เลือกจะใช้เทคโนโลยีในปัจจุบันที่มีเครื่องมือที่ทันสมัยมากขึ้นเข้ามาทดสอบ ดังนั้นการเลือกใช้แบรนด์ที่เลี่ยงการทดสอบแบบนี้ยังเป็นอีกช่องทางที่ช่วยรณรงค์ไม่ให้โหดร้ายกับสัตว์ไปมากกว่านี้


อ้างอิงจาก

Facebook
Twitter
Pinterest