วิตามินอาหารเสริม ดีอย่างไร ? พร้อมแนะนำวิตามินยอดนิยมขายดีตลอดกาล

เนื้อหาบทความ

วิตามินอาหารเสริม ดีอย่างไร ? พร้อมแนะนำวิตามินยอดนิยมขายดีตลอดกาล

ถึงแม้ว่าคนเราจะสามารถได้รับวิตามินสำคัญต่าง ๆ จากอาหารที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวัน แต่ก็ต้องยิมรับว่าไม่ใช่ทุกคนจะทานได้หลากหลาย จนได้รับวิตามินที่ครบถ้วน หรือทานในปริมาณที่มากพอจนได้รับวิตามินต่าง ๆ ในปริมาณที่ร่างกายต้องการ นี่จึงเป็นที่มาของ วิตามินอาหารเสริม ประเภทต่าง ๆ ที่ดีรับการพัฒนาออกมาเพื่อเป็นการเสริมให้คนเราสามารถที่จะได้รับวิตามินในปริมาณที่เพียงพอต่อการที่ร่างกายจะนำเอาไปใช้ได้ในแต่ละวัน 

ปัจจุบันมีวิตามินได้รับการผลิตออกมามากมาย หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะแบบผง เม็ด น้ำ หรือแม้แต่เจลลี่ เพื่อให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกในการเลือกใช้วิตามินได้ตามที่ต้องการ ตัวเลือกในการเลือกของรูปแบบการรับประทานตามที่ต้องการ สำหรับใครที่กังวลไม่ชอบทานยาเม็ด หรือไม่ชอบรสของยาก็ไม่ต้องกังวลเลย เพราะแต่ละผู้ผลิตต่างก็ขนเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการพัฒนาจนวิตามินในปัจจุบันมีรูปแบบที่หลากหลาย และมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก ทำให้สามารถที่จะรับประทานได้ง่ายยิ่งขึ้น 

โดยวิตามินแต่ละตัวนั้นต่างก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับว่าร่างกายของเราประสบปัญหาใด และเราต้องการวิตามินประเภทไหน เพื่อเข้าไปเสริมในการบำรุง หรือซ่อมแซมส่วนที่สึกหลอในร่างกายของเรา


วิตามินอาหารเสริมช่วยบำรุงได้จริงหรือไม่?

วิตามินอาหารเสริม ช่วยบำรุงได้จริงหรือไม่?

ปัจจุบันมีงานวิจัยออกมามากมายจากหลายแหล่ง ที่บ่งชี้ว่าสำหรับผู้ที่ขาดวิตามินแล้วสามารถที่จะรับประทานวิตามิน หรืออาหารเสริมเพื่อให้ได้รับวิตามินที่เพียงพอได้ ในขณะเดียวกันก็ต้องระวังไม่ให้รับวิตามินมากเกินไป อย่างที่เรารู้กันว่าอะไรที่มันมากไปก็มักจะไม่ดี และน้อยเกินไปก็ไม่ดี ดังนั้น จะต้องให้ทุกอย่างอยู่ตรงกลางจึงจะดีที่สุด คือการทานรับประทานวิตามินเท่าที่ต้องการอย่างแรกเลยร่างกายของเราก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อขับเอาวิตามินส่วนเกินออกมา โดยหากเราทานวิตามินมากเกินไปอวัยวะอย่างตับ และไตก็จะเป็นส่วนแรกที่จะได้รับผลกระทบ 

ดังนั้น เราต้องทานวิตามินอย่างพอดี เพื่อไม่ให้มีวิตามินส่วนเกินตกค้างอยู่ภายในร่างกาย สำหรับวิตามินแล้วนั้นแบ่งออกเป็นง่าย ๆ คือวิตามินที่สามารถละลายได้ในน้ำมัน อย่าง วิตามิน A D E K และวิตามินละลายในน้ำอย่าง B C ส่วนมากแล้วหมอหลายท่านแนะนำว่า ถ้าเราอยากจะเริ่มทานวิตามินเอง ให้เลือกวิตามินที่ละลายในน้ำ เพราะร่างกายสามารถที่จะกำจัดออกไปได้ง่าย ส่วนวิตามินที่ละลายในน้ำมัน อาจจะเหมาะมากกว่าหากเราได้รับการวินิจฉัยจากคุณหมอว่าเราต้องการวิตามินเหล่านั้นเพิ่มเติมหรือไม่ แนะนำ 6 รูปแบบอาหารเสริม ยอดนิยม ที่คุณน่าจะสนใจ


แนะนำ วิตามินอาหารเสริม ยอดนิยมขายดีตลอดกาล

แนะนำ วิตามินอาหารเสริม ยอดนิยมขายดีตลอดกาล

สำหรับวิตามินอาหารเสริมที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในท้องตลาดนั้นก็มีมากมายหลายตัวด้วยกัน โดยตามท้องตลาดแล้วปริมาณวิตามินที่บันจุอยู่ในแต่ละเม็ด แต่ละกระปุกนั้นก็จะอยู่ที่ปริมาณ 500-1,000 มิลลิกรัม ซึ่งหากเรารับประทานตามคำแนะนำของคุณหมอ เภสัชกร หรือตามข้อบ่งชี้ข้างบรรจุภัณฑ์ ร่างกายก็น่าจะได้รับวิตามินนั้น ๆ อย่างพอดี สำหรับวิตามินที่ได้รับความนิยมมากที่สุด และหลาย ๆ คนมักจะซื้อติดบ้าน มีดังนี้

1. วิตามินซี

วิตามินซี สำหรับวิตามินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็หนีไม่พ้นวิตามินซี วิตามินซึ่งนอกจากจะช่วยดูแลสุขภาพกายแล้วก็ยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิวอีกด้วย วิตามินซีอาหารเสริมที่เรารับประทานกันในปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วเป็นวิตามินที่ได้จากการสกัดจากผลไม้มาในรูปของกรดแอสคอร์บิกที่ละลายในน้ำ ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่าย วิตามินซีมาในหลากหลายรูปแบบให้เราสามารถเลือกแบบที่ต้องการเพื่อรับประทานได้ ไม่ว่าจะเป็นแบบเม็ด แคปซูล เม็ดอม เม็ดฟู่ หรือแบบผงละลายน้ำดื่ม 

วิตามินซี ยังเป็นส่วนผสมยอดนิยมของวิตามินประเภทสำหรับบำรุงผิว เพราะวิตามินมีสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยให้ผิวมีความกระจ่างใส กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น นอกจากนี้แล้วอีกหนึ่งคุณประโยชน์สำคัญก็คือ การป้องกันหวัด และช่วยให้อาการหวัดทุเลาลงได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

2. วิตามินบี

วิตามินบี เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่สำคัญต่อร่างกาย แบ่งออกเป็นวิตามินบีชนิดต่าง ๆ มีวิตามินอาหารเสริมแยกออกเป็นชนิด ๆ หรือเราอาจจะเคยคุ้นหูกันกับวิตามินบีรวม ที่รวมเอาวิตามินบีชนิดสำคัญ ๆ เอาไว้ในเม็ดเดียวกันเพื่อให้ง่ายต่อการรับประทาน โดยหลัก ๆ แล้ววิตามินบีมีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย โดยเฉพาะระบบประสาท และสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และบำรุงร่างกาย นอกจากนี้แล้ววิตามินบียังมีหลากชนิด แต่ละชนิดมีส่วนในการช่วยบำรุงแตกต่างกันออกไป โดยชนิดยอดนิยม มีดังนี้

  • วิตามิน B1 มีหน้าที่สำคัญคือ เผาผลาญน้ำตาลที่เรารับประทานเข้าไปให้เปลี่ยนเป็นพลังงาน ช่วยป้องกันโรคโลหิตจาง และโรคเหน็บชา ผู้ที่ขาดวิตามินบี 1 อาจมีอาการอ่อนเพลีย หรือมีอาการเหน็บชาเกิดขึ้นบ่อย ๆ 
  • วิตามินบี B2 มีส่วนในการช่วยป้องกันการเกิดไมเกรน ทำให้ผิวหนัง เล็บ เส้นผมมีสุขภาพดียิ่งขึ้น
  • วิตามินบี B3 ช่วยในการเผาผลาญอาหาร ทำให้ร่างกายเกิดพลัง มีความกระปรี้กระเป่า 
  • วิตามิน B5 มีความจำเป็นต่อการทำงานของสมอง ช่วยเรื่องการนอนหลับ และควบคุมสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย
  • วิตามิน B6 มีส่วนสำคัญในการช่วยชะลอวัย จำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและสมอง เสริมสร้างภูมิต้านทานของร่างกายให้แข็งแรง
  • วิตามิน B7 มีส่วนช่วยในการป้องกันผมหงอก รักษาโรคเกี่ยวกับเส้นผม บำรุงรักษาเล็บที่แห้งเปราะ ช่วยในการลดผดผื่นคันต่าง ๆ 
  • วิตามิน B9 ช่วยบำรุงผิวพรรณและสุขภาพ แก้ปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ ช่วยชะลอการเกิดผมขาว นอกจากนี้ยังสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจได้ 
  • วิตามิน B12 มีความจำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือด การทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง และระบบทางเดินอาหาร และยังช่วยป้องกันการอ่อนเพลียในผู้ที่เป็นโรคโลหิตจาง

3. วิตามินดี

วิตามินดี ไม่เพียงแค่ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น แต่ยังเป็นวิตามินที่มีบทบาทในการกระตุ้นเซลล์ภูมิคุ้มกันในร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเม็ดเลือดขาวโมโนไซต์และมาโครฟาจ ซึ่งเป็นเซลล์เม็ดเลือดขาวที่สำคัญในการช่วยลดการอักเสบ ต่อสู้กับเชื้อโรคและสิ่งแปลกปลอมที่เป็นปกติ โดยปกติแล้วเราสามารถรับวิตามินดีได้จากอาหารที่หลากหลาย เช่น ปลาต่าง ๆ, นม, ไข่แดง, ชีส, ตับปลา, และเห็ด เป็นต้น แต่การรับประทานเสริมวิตามินดีควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อหาปริมาณที่เหมาะสมสำหรับแต่ละคน

 

จะเห็นได้ว่า วิตามินอาหารเสริม แต่ละประเภทนั้นก็มีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ในการช่วยเสริมสร้างบำรุงร่างกาย และการป้องกันโรคต่าง ๆ เพียงเราทานอาหารให้มีความหลากหลาย ออกกำลังกาย และดื่มน้ำให้เพียงพอ พร้อมทั้งรับประทานวิตามินอาหารเสริมที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างพอดี เท่านี้ร่างกายของเราก็จะได้รับการบำรุงอย่างดีที่สุด รวมถึงมองหาผลิตภัณฑ์ที่มี เครื่องหมายรับรองคุณภาพสินค้า เพื่อมั่นใจได้ว่าวิตามินอาหารเสริมเหล่านั้น มีการผลิตที่ได้มาตรฐาน และร่างกายจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่

เลือกทานวิตามินให้เหมาะสม และถูกต้องตามปริมาณที่ควรรับประทานในแต่ละวันเพื่อให้ร่างกายของเราได้รับวิตามินในปริมาณที่พอดี และไม่ส่งผลต่อการทำงานของตับ และไต ไม่ว่าวิตามินชนิดไหน เพียงแค่รับประทานอย่างพอดีก็ไม่เป็นอันตรายแน่นอน 


อ้างอิง

Facebook
Twitter
Pinterest