สร้างแบรนด์ตัวเอง ไม่ใช่เรื่องง่าย
แบรนด์ของสินค้าก็คล้ายกันกับมนุษย์ เป็นสิ่งมีชีวิตและมีลมหายใจ ที่ต้องได้รับการเลี้ยงดูเพื่อความอยู่รอดไม่ต่างจากการเลี้ยงดูเด็กคนหนึ่งให้เจริญเติบโตในอนาคต จะดีหรือไม่ดีก็อยู่ที่การเอาใจใส่ แต่ในหลายๆ ครั้ง ก็ต้องยอมรับว่าแบรนด์ก็ถูกทำให้ละเลยหรือถูกมองข้ามไป ไม่ว่าจะเป็น การที่ผู้ประกอบการขาดประสบกาณ์ หรือ มองข้ามข้อบกพร่องเล็กๆ น้อยๆ ในครั้งแรกไป จนเกิดปัญหาที่ 2 ปัญหาที่ 3 ตามมา กลายเป็นเชือกที่ถูกปมขมวดไว้หลายทบ ยุ่งเหยิง และต้องใช้เวลาในการแก้ สมมติว่าปัญหานั้นมันได้เกิดขึ้นแล้ว คุณจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันไม่ให้แบรนด์ของคุณที่สร้างมากับมือพังทะลายต่อหน้าต่อตา? และนี่คือ 7 ปัญหาที่ต้องเตรียมรับมือที่อาจเกิดขึ้น เมื่อเริ่มสร้างแบรนด์
7 ปัญหาที่เจ้าของแบรนด์อาจเจอ
-
ปัญหาโรงงานผิดนัด
“โรงงานผิดนัด” เป็นปัญหาที่เจ้าของธุรกิจมีโอกาสในการเจอสูง ส่งผลกระทบเป็นทอดๆ ทั้งฝ่ายลูกค้าและตัวแทน เพราะต่างก็รอสินค้า เรื่องนี้บอกเลยต้องจัดการกับความเสี่ยงให้ดี เรื่องการบริหารสต๊อกสินค้าก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ไม่ควรละเลย
-
ปัญหาการทำบัญชี
“ก็ได้กำไร แต่ทำไมตังค์มันไปไหนหมดไม่รู้” คำถามนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย หากมีการทำบัญชีไว้ตั้งแต่ต้น การทำบัญชีเป็นสิ่งจำเป็นมาก มันเป็นสิ่งที่ทำให้รู้ว่าเราลงทุนอะไร ได้กำไรเท่าไหร่ ตลอดจนจะจัดการหาทุนหมุนเวียน ถ้าจัดการงานด้านบัญชีดีๆ ปัญหาของธุรกิจก็จะน้อยลง ช่วยลดความเสี่ยงในธุรกิจที่ยังอาจมองไม่เห็น และชีวิตเจ้าของธุรกิจก็จะง่ายขึ้นเยอะ
-
การตัดราคา
ปัญหาภายในลูกทีมขายของตัดราคากันเอง ในฐานะเจ้าของแบรนด์ต้องควบคุมและมีการจัดการให้ดี และยิ่งธุรกิจคุณได้เปิดหาตัวแทนจำหน่ายที่มีแม่ทีมหลายคน อาจเกิดเหตุการณ์ที่ว่าแม่ทีมของธุรกิจ เกิดอยากเป็นเจ้าของแบรนด์เสียเอง ผลที่ตามมา คือ ถูกดึงลูกค้าของเราไป คราวนี้เสียทั้งลูกค้าและเกิดการขายตัดราคาที่ต้องหาวิธีรับมือให้ดี
-
กระแสหาย
เมื่อมีกระแสก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า เป็นเรื่องธรรมดาของการตลาด แต่เมื่อไหร่ที่กระแสดรอปก็แทบตั้งตัวไม่ทัน สินค้าหลายตัวเปิดตัวได้อย่างสวยสดงดงามได้ยอดขายเป็นกอบเป็นกำ แต่ไม่นานนักก็ต้องคิดหนัก เพราะได้สั่งผลิตไว้ ไหนของที่สต๊อกไว้มหาศาลอีก จะเอาไงดี เหมือนเป็นโจทย์อันท้าทายว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ..แม้ไม่อยู่ในกระแส
-
ของขาดสต๊อก
ปัญหาสินค้าขาดสต๊อก ของไม่พอขาย ฯลฯ ผู้ประกอบการรายใหม่มักเผชิญความเสี่ยงของปัญหานี้มากกว่าเจ้าของแบรนด์ที่มีประสบการณ์ในธุรกิจมานาน เป็นเพราะยังขาดประสบการณ์ในการคาดการณ์ความต้องการของผู้บริโภค หรือ ไม่ได้มีเงินทุนหมุนเวียนหรือเงินสำรองมากนัก และถ้าวางแผนไม่ดีสั่งมาเยอะก็ทำขาดทุนเอาได้เหมือนกัน
-
โดนคู่แข่งโจมตี
โดนคู่แข่งโจมตี เป็นการแข่งขันทางการตลาด อยากให้มองในมุมว่าเป็นกลยุทธ์ในการแข่งขัน การต่อสู้อาจมีแนวโน้มเข้มข้น หรือ เกิดการประนีประนอมร่วมมือกันในบางเรื่องบางราว เราสามารถโต้กลับได้ผ่านการวางแผนเพื่อโจมตี และจำไว้ว่าคู่แข่งที่ดีนั้นจะต้องไม่ต่อสู้นอกกติกา ไม่ฝ่าฝืนหลักศีลธรรมอันดี พร้อมที่จะปรับตัว หากเผชิญการต่อต้าน หรืออุปสรรคใดๆ จากคู่แข่ง สู้ไปพร้อมกับการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ยังคงมีความน่าเชื่อถือ
-
โดน copy สินค้า
“ทำแบรนด์เอง แต่โดนก็อป ทำยังไงดี?” หากเจอปัญหานี้ในอนาคต ติดต่อกับกรมทรัพย์สินทางปัญญา หรือ ติดต่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญาผ่านทางสื่อโซเชียลออนไลน์อย่าง Facebook ได้ ที่ https://www.facebook.com/ipthailand หรือเข้าไปที่เว็บไซต์หลัก http://www.ipthailand.go.th/
เพื่อหาทางแก้ไขในอนาคตว่าควรทำอย่างไรต่อไป ดีกว่าจะปล่อยให้สินค้าของตนเองถูกละเมิดลิขสิทธิ์ คือ ไม่ควรปล่อยไป ไม่ควรนิ่งเฉยต่อการถูกละเมิดลิขสิทธิ์ อย่าเห็นว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ผู้ที่กระทำความผิดควรชดใช้เพื่อเป็นตัวอย่างของสังคม เจ้าของแบรนด์สามารถฟ้องร้องต่อศาลเพื่อเรียกค่าเสียหายได้ อย่าลืมรวบรวมหลักฐานต่างๆ เพื่อใช้ประกอบในการฟ้อง นอกจากนี้สิ่งที่จดแจ้งจะได้รับการคุ้มครองในอนาคตและไม่ตกเป็นของสาธารณะ เช็คเรื่องสินค้าเป็นทรัพย์สินทางปัญญา และจดแบรนด์เครื่องหมายการค้าให้ดีๆ ก่อนทำธุรกิจ
อ้างอิง :